
เมื่อเวลา 9.30 น.วันที่ 16 ส.ค.62 ห้องพิจารณาคดีที่ 19 ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ศาลนัดอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ ฮ.6016/2561 อัยการเป็นโจทย์ยื่นฟ้อง นางกมลวรรณ จีนจะโปะ อายุ 50 ปี เจ้าของเนอสเซอรี่แห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ ภายในหมู่บ้านสวัสดิ์ดี ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จำเลยที่ 1 ข้อหาดำเนินกิจการสถานรับเลี้ยงโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ส่วน นางอัมพร ดาวเรรัมย์ อายุ 28 ปี จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็น ครูพี่เลี้ยง ข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 จัดตั้งและคำเนินกิจการสถานรับเลี้ยงโดยไม่ได้รับ ใบอนุญาต และจำเลยทั้งสองร่วมกันทำร้ายเด็กชายจตุภัทร วรศาสตร์ จนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของโจทก์โจทก์ร่วมและจำเลยทั้งสองแล้วเห็นว่า เนื่องจากผล ชันสูตรจากสถาบันนิติเวช ผู้ตายได้เสียชีวิตจากสาเหตุ กระดูกซี่โครงซี่ที่ 2 ถึงที่ 4 ด้านข้าง หักเป็นเหตุ ให้ระบบหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลวและถึงแก่ความตาย ทั้งนี้จำเลยที่ 1 ซึ่งประกอบกิจการรับเลี้ยงเด็กมี จำเลยที่ 2 เป็นลูกจ้างผู้เลี้ยงดูเด็ก จำเลยที่ 1 จึงต้องดูแลจำเลยที่ 2 ให้เลี้ยงผู้ตายเป็นอย่างดี ตามที่ตนประกอบกิจการ เมื่อจำเลยที่ 1 อยู่ในบริเวณที่จำเลยที่ 2 เลี้ยงดูผู้ตายดังกล่าว เชื่อว่าจำเลยที่ 1 ต้องรู้เห็นถึงการกระทำของจำเลยที่ 2 ต่อผู้ตาย ซึ่งจำเลยที่ 1 ต้องหามปรามจำเลยที่ 2 มิให้กระทำดังกล่าว เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่ห้ามปรามกลับให้จำเลยที่ 2 กระทำต่อผู้ตายจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย พฤติการณ์ของจำเลยที่ 1 ดังกล่าวถือว่ามีเจตนาร่วมกรทำความผิด กับจำเลยที่ 2 ด้วย ฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นตัวการร่วมกระทำความผิดกับจำเลยที่ 2 จำเลยทั้งสอง จึงมีความผิดฐานร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายตามฟ้อง ส่วนความผิดฐานจัดตั้งหรือคำเนินกิการสถานรับเลี้ยงเด็กโดยไม่ได้รับใบอนุญาตสำหรับจำเลยที่1นั้นเห็นว่าฟ้องโจทก์ไม่ครบองค์ประกอบความผิดฐานจัดตั้งหรือดำเนินกิจารสถานรับเลี้ยงเด็กโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจำเลยที่จึงไม่มีความผิดฐานดังกล่าว และให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าสินไหมหดแทนแก่โจทก์ร่วมเป็นปลงศพผู้ตายละค่าใช้จ่ายอันจำเป็นในการจัดการศพเป็นเงิน 1 แสนบาท ค่าขาดไร้อุปการะเลี้ยงดูแก่โจทก์ร่วมเป็นเงิน 320,000 บาท รวม เป็นเงิน 820,000 บาทพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 250 ประกอบมาตรา 83 จำคุกคนละ3 ปีให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้คำสินไหมทดแทนเป็นเงิน 820,000 บาท พร้อมคอกเบี้ยอัตราร้อยละ35 ต่อปีของต้นเงินดังกล่าวนับตะวันที่ 25 เมษายน 2561 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยกฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
นางสาว วราลี เสริมจันทร์ อายุ 34 ปี มารดาของน้องนาวา เปิดใจให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาว่าตนเองและครอบครัวดีใจมากที่ทางศาลรวมถึงกระบวนการยุติธรรม ให้ความยุติธรรมกับครอบครัว และขอบคุณพี่ๆสื่อมวลชนและท่านปวีณา ที่ตามเกาะติดคดีของน้องมาตลอด ในขณะที่คุณพ่อน้องนาวา ศาลตัดสินอย่างไรติดคุกกี่ปีหรือชดใช้เท่าไร ก็น้อมรับอย่างน้อยคนทั่วประเทศจะได้ตื่นตัวในการที่จะนำบุตรหลานฝากเนอร์เซอรี่ทั่วประเทศ เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับน้องนาวาอีก
ผู้สื่อข่าวRALANEWSจังหวัดสมุทรปราการ