ข่าวประชาสัมพันธ์

สุริยะ นำทัพผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมทีมงาน ร่วมตรวจสอบสถานการณ์การปล่อยฝุ่น PM2.5 ตามนโยบายนายกฯ พร้อมทั้งสั่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบโรงงานที่มีความเสี่ยงในการปล่อยฝุ่น PM2.5 ทั่วประเทศ

63-01-29-4

สุริยะ นำทัพผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมทีมงาน ร่วมตรวจสอบสถานการณ์การปล่อยฝุ่น PM2.5 ตามนโยบายนายกฯ พร้อมทั้งสั่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบโรงงานที่มีความเสี่ยงในการปล่อยฝุ่น PM2.5 ทั่วประเทศ โดยเฉพาะโรงงานที่มีการใช้พลังงานจากหม้อน้ำและหม้อต้มที่ใช้ของเหลวเป็นสื่อนำความร้อนซึ่งมีกว่า 1.3 หมื่นเครื่องทั่วประเทศ

 

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 29 มกราคม 63 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตรวจโรงงานในพื้นที่อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ร่วมกับผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม กรมโรงงานอุตสาหกรรม และ สส.พรรคพลังประชารัฐ โดยมีนายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผวจ.สมุทรปราการ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดร่วมติดตามปัญหา โดยนายสุริยะได้สั่งการให้หน่วยงานสังกัดของกระทรวงอุตสาหกรรมจับมือกับผู้ประกอบการในการเร่งตรวจสอบ และหามาตรการในการลดปัญหามลพิษ โดยเฉพาะปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ที่เกิดจากโรงงานอุตสาหกรรมอย่างเร่งด่วน เพื่อลดความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน อย่างยั่งยืน ตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้ประกาศให้การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองเป็นวาระแห่งชาติ พร้อมทั้งออกมาตรการ และแผนปฏิบัติการขับเคลื่อน เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการเชิงพื้นที่การป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพ ระบบ เครื่องมือ และกลไกการบริหารจัดการของทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ในส่วนกระทรวงอุตสาหกรรมจะมีการตรวจสอบ และติดตามสถานการณ์โรงงานที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่สามารถก่อให้เกิดฝุ่นละออง PM2.5 จำนวน 6,104 แห่งทั่วประเทศ เนื่องจากเป็นโรงงานที่มีการใช้พลังงาน ในหม้อน้ำ หม้อต้มที่ใช้ของเหลวเป็นสื่อนำความร้อนและอุปกรณ์การเผาไหม้อื่น ๆ ซึ่งมีจำนวนอุปกรณ์เหล่านั้นรวมกันกว่า 13,629 เครื่องทั่วประเทศ แบ่งเป็น โรงงานภาคกลาง 3,338 แห่ง, ภาคเหนือ 286 แห่ง,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 513 แห่ง, ภาคตะวันออก 1,148 แห่ง, ภาคตะวันตก 324 แห่ง และภาคใต้ 495 แห่ง ส่วนใหญ่ฝุ่นละออง PM2.5 จะเกิดจากกระบวนการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการใช้พลังงานในหม้อน้ำ หม้อต้มที่ใช้ของเหลวเป็นสื่อนำความร้อนและอุปกรณ์การเผาไหม้อื่น ๆ เช่น อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม, โรงสีข้าว, ผลิตภัณฑ์อาหารจากแป้ง, การฟอกย้อม, การเกษตรแปรรูป, เคมีภัณฑ์, การแปรรูปไม้, สิ่งทอ และผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น
โดยวันนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงาน 2 แห่ง ที่มีหม้อน้ำและหม้อต้มที่ใช้ของเหลวเป็นสื่อนำความร้อน ประกอบด้วยบริษัทไมลอทท์ แลบบอราทอรี่ จำกัด ตั้งอยู่ที่ถนนเทพารักษ์ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ประกอบกิจการผลิตเครื่องสำอาง น้ำหอมปรับอากาศ และเครื่องเสริมความงามอื่น ๆ เช่น สบู่ วัสดุสังเคราะห์สำหรับซักฟอก แชมพู ผลิตภัณฑ์สำหรับโกนหนวด ผลิตภัณฑ์สำหรับชำระล้าง เช่น น้ำยา ผง ผงเคมี ครีม ใยทำความสะอาดพื้น ผนัง ห้องครัว ห้องน้ำ สุขภัณฑ์ การทำยาฆ่าเชื้อโรค ยาดับกลิ่น การทำคราม เป็นต้น
จากนั้นได้เดินทางไปยังบริษัท แปซิฟิค เวิลด์ อัลลอย จำกัด อำเภอบางพลี จังหวัด สมุทรปราการ ซึ่งประกอบกิจการหลอมหล่ออลูมิเนียม เช่น วัตถุดิบเศษชิ้นส่วนยานยนต์ เช่นหม้อน้ำ เสื้อสูบฝาสูบรถยนต์ ผลิตภัณฑ์ อลูมิเนียมแท่ง(ingot) ซึ่งมีกำลังการผลิต 2-3 ตันต่อวัน ใช้เชื้อเพลิงน้ำมันเตาทำการหลอมวันละ 3-4 ชั่วโมง โดยมีระบบบำบัดโดยการสเปรย์น้ำและพ่นลงน้ำก่อนระบายอากาศออกปล่องระบายอากาศ ความสูงปล่อง 20 เมตร ในอดีตเคยมีเรื่องร้องเรียน กลิ่น ฝุ่น ควัน แต่ปัจจุบันปรับปรุงแก้ไขระบบบำบัดโดยสร้างใหม่ แทนชุดเดิมทั้งหมด ซึ่งถือเป็นความตั้งใจที่ดีในการแก้ไขปัญหาของผู้ประกอบการ

 

 

  

  

Please follow and like us:
0 Comments

Boss

Reply your comment

Your email address will not be published. Required fields are marked*

RSS
Follow by Email
YouTube
LinkedIn
Share
Instagram