Uncategorized, สังคมคนเป็นข่าว

จัดเสวนา เพิ่มทางเลือกผู้ประกอบการส่งสินค้าบุกตลาดพม่า อย่างไรไม่มีความเสี่ยง

16102562-2

ที่ห้องประชุมลานลีลาศ ศาลาสุขใจ สถานตากอากาศบางปู ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-เมียนมา จัดเสวนาฟรี หัวข้อ สถานการณ์และกลยุทธ์เพื่อสร้างโอกาสในการค้าการลงทุนในเมียนมาสำหรับนักธุรกิจไทย โดยผู้ทรงคุณวุฒิจากสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทยในเมียนมา เพิ่มทางเลือกผู้ประกอบการส่งสินค้าบุกตลาดพม่า อย่างไรไม่มีความเสี่ยง

โดยมี นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวให้การต้อนรับ และกล่าวถึงภาพรวมของจังหวัดสมุทรปราการ รวมถึงนโยบายการจ้างงานต่างด้าว

โดยมี พลเอก ดร.วิชิต ยาทิพย์ ( สมาชิกวุฒิสภา ) นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศษรฐกิจไทย-เมียนมา และวุฒิสมาชิก กล่าวประวัติของสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย เมียนมา ในการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2562 สัญจรที่จังหวัดสมุทรปราการ

มีนายอธิบดี เจริญฉิมพลี ประธาน สาขาจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวการดำเนินงานของสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-เมียนมา สาขาสมุทรปราการ มีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วน

พร้อมด้วยนายศรพงษ์ศักดิ์ สุวรรณปรุง ที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชนด้านเศษฐกิจ จังหวัดสมุทรปราการ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี , ดร.สังวาลย์ เกตุงาม นายกสมาคนักข่าวหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาค ,นายจัตุรงค๋ เสริมสุข ที่ปรึกษาสมาคมนักข่าวหนังสือพิม พ์ส่วนภูมิภาค , นายภัคพล รุ่งเรือง ประธานสาพันธ์ SME จังหวัดสมุทรปราการ ดร.พัฒนพงศ์ จงรักดี ผู้ช่วยที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชนด้านเศรษฐกิจ ตลอดจนผู้แทน จากสาขา ต่างๆและหน่วยงานองค์กร ภาคธุรกิจ ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ และพื้นที่ใกล้เคียง ให้ความสนใจเข้าร่วมงานกันอย่างคึกคัก ก่อนจัดให้มีการจัดพิธีมอบป้ายสาขา 3 สาขา ประกอบด้วยสาขา

สมุทรปราการ สาขามุกดาหาร และสาขาเลย พร้อมเยี่ยมชม บูธ การแสดงสินค้าของดีเมืองสมุทรปราการ (พช.) และกลุ่ม SME สมุทรปราการ จากนั้นเป็นการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2562

ซึ่งถือว่าจะเป็นโอกาสก้าวสำคัญให้กับนักธุรกิจเข้าร่วมรับฟังในวันนี้ในพื้นที่สมุทรปราการ ที่กำลังมองหาตลาดและขยายฐานการส่งออกสินค้าจะได้รับการถ่ายทอดสาระสำคัญขององค์ความรู้ และขยายภาพในบริบททุกมิติของความสัมพันธ์ระหว่างราชอาณาจักรไทย กับสาธารณรัฐสหภาพเมียนมา ในอันที่จะก่อให้เกิดความมั่นคง ความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนไปด้วยกันทุกสถานภาพ เป็นการเตรียมความพร้อมในการนำกิจกรรมขยายผลไปสู่ประชาคมอาเซียน อาทิ การส่งเสริมและผลักดันการพัฒนาตามแนวชายแดน เป็นการเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ การค้า การลงทุน ความร่วมมือทางด้านแรงงาน ความร่วมมือทางวัฒนธรรม และการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ โดยกุศโลบายที่ไทยมีเทคโนโลยีและทุน บูรณาการกับเมียนมา ที่มีทรัพยากรธรรมชาติและแรงงาน

ทั้งนี้ทั้งสองประเทศมีศูนย์รวมแห่งจิตใจในการมีความศรัทธานับถือศาสนาพุทธ เป็นแรงขับเคลื่อนให้บรรลุซึ่งผลประโยชน์ที่ทัดเทียมกัน โดยทางสมาคมฯ ตระหนักดีว่าทุกถูมิภาคนั้นมีความสำคัญ คือมีทรัพยากรธรรมชาติ มีกำลังการผลิตสินค้า ทั้งภาคการเกษตรและอุตสาหกรรม ที่มีคุณภาพพร้อมในการส่งออก รวมทั้งได้ทรัพยาบุคคลที่มีศักยภาพในการบริหารจัดการทุกสาขาอาชีพ ผนวกกับการผนึกพลังร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวที่มีความมั่นคง ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน จึงได้เชิญบุคลากรภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป มาร่วมประชุม เพื่อการมีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนทัศนคติและวิสัยทัศน์ เป็นการสร้างแนวคิดและข้อมูลใหม่ ที่จะเป็นแนวทางให้กับสมาคมฯ นำไปพัฒนาให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมอย่างแท้จริง

–ทั้งนี้สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-เมียนมา เป็นองค์กรเอกชน พัฒนาที่มีบทบาทในการบริหารจัดการองค์การ ภายใต้ยุทธศาสตร์เพื่อสร้างความผาสุก และความมั่นคงให้เกิดกับประชาชนชาวไทย และชาวเมียนมาอย่างเสมอภาค ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2544 รวมระยะเวลา 17 ปีแล้ว โดยปฏิบัติภารกิจส่งเสริมกิจกรรม

เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ปัจจุบันได้ขยายสาขาไปในทุกภาค ถึง 21 สาขา ได้แก่ ภาคเหนือ ประกอบไปด้วย สาขาเชียงราย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และแม่สอด ภาคกลาง ประกอบไปด้วย สาขากาญจนบุรี พระเจดีย์สามองค์ พุน้ำร้อน ราชบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และเพชรบุรี ภาคใต้ ประกอบไปด้วย สาขาประจวบคีรีขันธ์ ระนอง พังงา และภูเก็ต ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบไปด้วย สาขานครราชสีมา ขอนแก่น สกลนคร นครพนม มุกดาหาร และอุบลราชธานี

ณรงค์เดช ปันเจริญ ผู้สื่อข่าวRALANEWS

Please follow and like us:
0 Comments

mongko

Reply your comment

Your email address will not be published. Required fields are marked*

RSS
Follow by Email
YouTube
LinkedIn
Share
Instagram