อาชญากรรม

ฉะเชิงเทรา เด็กชายวัย15ปี ถูกอุ้ม

63-11-20-3


เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองและชุดสืบสวนภูธรจังหวัดฉะเชิงเทราลงพื้นที่เร่งสืบสวนหาตัวคนร้ายอ้างตัวเป็นตำรวจหลอกเด็กชายวัย15ปีจากร้านค้าหน้าบ้านเบื้องค้นได้ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางในการก่อเหตุพร้อมสอบปากคำผู้เสียหายและนำภาพผู้ต้องสงสัยมาให้ผู้เสียหายดู คาดว่าพอรู้ตัวผู้ต้องสงสัยที่เป็นคนร้ายแล้วอยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี ด้านพ่อเด็กฝากเตือนคดีนี้ไว้เป็นบทเรียนและอยากบอกประชาชนทั่วไปว่าให้ระมัดระวังการแอบอ้างจากคนแปลกหน้าที่มาขอความช่วยเหลือเพราะอาจเป็นภัยกับตัวเองได้
จากกรณีเวลา 20.00 น. วันที่ 19 พ.ย. 63 ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานงานจากนายวรา วัฒนะ อายุ 42 ปี เจ้าของโรงน้ำแข็ง ว.วัฒนะ เลขที่ 195 หมู่ 17 ต.ท่าไข่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ว่าลูกชายของตนเอง คือนายเจษฏา วัฒนะ อายุ 15 ปี บุตรชายของตน ว่าถูกชายอ้างเป็นตำรวจพาตัวขึ้นรถจักรยานยนต์ หายไปก่อนจะทราบเรื่องและสามารถพาตัวลูกชายกลับมาบ้านได้ ก่อนเดินทางไปแจ้งความกับ ร.ต.อ.ทีปถ์ ไม้ลึกดี รอง.สว.สอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทราแล้ว
นายเจษฏา วัฒนะ ผู้เสียหายเปิดเผยว่า โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.คืนวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่บนรถจักรยายนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ สีแดง-ดำ หมายเลขทะเบียน 1 กท 640 ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นรถของพ่อยู่ริมถนนข้างบ้านใกล้กับโรงน้ำแข็ง เป็นเวลาเดียวกันกับที่ชายลักษณะผอม สูง ผิวดำ สวมหมวกแก๊ปสีดำ ขี่รถจักรยายนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดง-ดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเข้ามาจอดข้างรถตน พร้อมชูป้ายแขวนคอสีดำ อ้างว่าเป็นตำรวจ อยากให้ตนเองไปช่วยราชการเร่งด่วน โดยให้ตนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของชายคนดังกล่าวไป ตนเองเห็นว่าเป็นการช่วยเหลือทางราชการ จึงหลงเชื่อขึ้นรถไป แต่ระหว่างทางเริ่มผิดสังเกต จึงหยิบโทรศัพท์ไลน์บอกแม่ ว่าตนเองขึ้นรถมากับชายคนดังกล่าวที่อ้างตัวเป็นตำรวจ แต่ไม่รู้ว่าจะพาไปไหน โดยชายคนดังกล่าวขี่รถพาตนออกมาจากอำเภอเมือง เข้าสู่อำเภอบางน้ำเปรี้ยว ไปจนถึงคลอง 21 พื้นที่ต.ดอนเกาะกา อ.บางน้ำเปรี้ยว ระยะทางกว่า 40 กิโลเมตร จนชายคนดังกล่าวได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปในป่ามืดข้างทาง ก่อนจะจอดรถ และชายคนดังกล่าวได้พูดว่าเดี๋ยวหยิบปืนก่อน ตนเองเห็นท่าไม่ดีจึงถอยห่าง ชายคนดังกล่าวให้ตนส่งหมวกให้และพุ่งเข้ามาจะหยิบโทรศัพท์มือถือในมือตน ตนเองพยามหลีกหลบไม่ให้ชายคนดังกล่าวจับตัว แต่โทรศัพท์มือถือของตนได้หล่นในที่เกิดเหตุ ทำให้ชายคนดังกล่าวหยิบไป ตนจึงตะโกนไปว่า “นี่พากันมาฆ่าชัดๆเลยนี่หวา” จากนั้นจึงวิ่งหนีออกมาจากป่าแล้ววิ่งหนีลงไปแอบในหลอด(เล็กกว่าคูน้ำ) รอจนชายคนดังกล่าวขี่รถจักรยานยนต์ไป จึงออกมาขอความช่วยเหลือยามหน้าโรงสีเก่งการณ์พานิช ให้ช่วยโทรบอกแม่ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่พ่อแม่ของตนได้เดินทางไปแจ้งความไว้ และในเวลาได้เดินทางมารับตัวยังจุดเกิดเหตุหน้าโรงสี
วันที่ 20พ.ย.63 เมื่อเวลา09.00น.เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดฉะเชิงเทราและเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเมืองฉะเชิงเทราเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 195 หมู่ 17 ต.ท่าไข่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทราเพื่อทำการสอบสวนนายเจษฏา วัฒนะ ผู้เสียหายเพื่อหาข้อมูลในการติดตามตัวคนร้ายและได้นำภาพจากแฟ้มประวัติอาชญากรรมมาให้ผู้เสียหายดูเพื่อเป็นแนวทางในการติดตามหาตัวคนร้ายพร้อมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุเบื้องต้นคาดว่าพอรู้ตัวคนร้ายแล้ว
นายวรา วัฒนะ อายุ 42 ปีพ่อของนาย นายเจษฏา วัฒนะ เปิดเผยว่าคดีนี้ไว้เป็นบทเรียนและอยากบอกประชาชนทั่วไปว่าให้ระมัดระวังการแอบอ้างจากคนแปลกหน้าที่มาขอความช่วยเหลือเพราะอาจเป็นภัยกับตัวเอง

ภาพ/ข่าว Wichai ผู้สื่อข่าว จังหวัดฉะเชิงเทรา

Please follow and like us:
0 Comments

Boss

Reply your comment

Your email address will not be published. Required fields are marked*

RSS
Follow by Email
YouTube
LinkedIn
Share
Instagram