ข่าวอุบัติเหตุ

ฟ้ามืดที่แปลงยาว !! ไฟไหม้โรงงานผลิตใยสงเคราะห์

13062562-5

เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานปั่นใยสังเคราะห์ ในพื้นที่อำเภอแปลงยาวฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่ประสานรถน้ำในพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 10 คันเข้าระงับเหตุ ด้านผู้ว่าแปดริ้วลงพื้นที่ตรวจสอบ สั่งการนำรถแบ็คโฮในพื้นที่ 4 คัน เกลี่ยกองเชื้อเพลิงพร้อมฉีดน้ำสกัดกั้น ให้เพลิงอยู่ในวงจำกัด ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจเผย สาเหตุเบื้องต้นเกิดจากสะเก็ดไฟที่ลัดวงจร กระเด็นไปตกใส่ใยสังเคราห์ที่กำลังปั่นอยู่ ก่อนจะลุกลามวอดอาคารต้นเพลิงและข้างเคียงอีก 2 หลัง ส่วนสาเหตุและความเสียหายเจ้าหน้าที่กองวิทยาการจะเข้าตรวจสอบในวันพรุ่งนี้


เวลา 17.00 น.(วันที่ 13 มิ.ย.62) พ.ต.ท.พิชัยภัส ทวีธนโภคิน สารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแปลงยาว เข้าตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงาน เลขที่ 159 ม.6 ต.วังเย็น อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมประสานรถน้ำดับเพลิงจากพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งเทศบาลตำบลวังเย็น,เทศบาลตำบลแปลงยาว,เทศบาลตำบลทุ่งสะเดา,องค์การบริหารส่วนตำบลหนองเหียง,องค์การบริหารส่วนตำบลแหลมประดู่ ,องค์การบริหารส่วนตำบลหัวสำโรง และองค์การบริหารส่วนตำบลหนองแหน เข้าควบคุมเพลิงในที่เกิดเหตุกว่า 10 คัน

โดยที่เกิดเหตุเป็นอาคารไม้หลังคามุงกระเบื้อง ลักษณะเป็นโรงผลิต ซึ่งเป็นจุดต้นเพลิงเป็นเครื่องจักรที่ใช้ในการปั่นใยสังเคราะห์ ไฟได้โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ต้องวางแผนกระจายกำลังเข้าฉีดน้ำเพื่อดับไฟบริเวณจุดต้นเพลิง พร้อมกันนี้กำลังเจ้าหน้าที่อีกส่วน ได้พยายามฉีดน้ำสกัดกันเปลวเพลิง เพื่อไม่ให้ลุกลามเป็นวงกว้าง แต่เนื่องจากวัสดุในอาคาร เป็นแผ่นใยสังเคราะห์ ประเภทฝ้าย ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จึงควบคุมเพลิงได้ยาก และยังลุกไหม้อย่างต่อเนื่องก่อนที่ไฟจะลุกลามไปยังอาคารย่อยอื่นๆ อีก 2 หลัง ได้รับความเสียหาย


จากการเปิดเผยจาก น.ส.ภัคจิรา พุทธรัตน์ อายุ 29 ปี ผู้บริหารโรงงาน เปิดเผยว่า โรงงานดังกล่าวนี้มีเนื้อที่ประมาณ 6 ไร่ เปิดดำเนินการมาแล้วประมาณ 10 ปี และได้รับช่วงบริหารงานต่อจากผู้ประกอบการคนเก่ามาได้ 2 ปีขณะที่เกิดเหตุพนักงานบางส่วนได้อยู่ด้านนอกโรงงาน ซึ่งตนเองได้รับรายงานจากพนักงานว่าเกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจรในอาคารฝ่ายผลิต ซึ่งเป็นเครื่องปั่นใยสงเคราะห์ และสะเก็ดไฟที่ช็อต ได้กระเด็นตกใส่ใยสงเคราะที่ถูกปั่น ก่อนเกิดไฟลุกลามติดใยสงเคราะห์ที่อยู่ใกล้เคียงอย่างรวดเร็ว ซึ่งพนักงานได้พยายามใช้ถังดับเพลิงที่มีอยู่กว่า 15 ถังภายในโรงงานดับแล้ว แต่ก็ไม่สามารถดับได้ เนื่องจากในขณะนั้นมีกระแสลมแรง จึงทำให้ลามไปติดอาคารอื่นทั้งหมดอย่างรวดเร็ว พนักงานทั้งหมดจึงรีบวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอดออกมานอกโรงงาน ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้ามาช่วยดับไฟ


ด้านนายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ พร้อมประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้สั่งการขอสนับสนุน รถแบ็คโฮ จำนวน 4 คัน จากภาครัฐ ภาคเอกชนในพื้นที่ใกล้เคียงให้รีบเข้ามาในพื้นที่ เพื่อใช้เกลี่ยกองเชื้อเพลิง และใช้น้ำฉีดตามกองเชื้อเพลิง เพื่อระงับกองเพลิงที่คลุอยู่ ให้ไฟดับสนิท ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมเพลิงอยู่ในวงจำกัด และในที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนในช่วงเช้าจะได้ให้เจ้าหน้าที่กองวิทยาการเข้าตรวจสอบ หาสาเหตุของการเกิดเหตุเพลิงไหม้พร้อมสำรวจความเสียหายในครั้งนี้

ผู้สื่อข่าว RALA NEWS ประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา

 

Please follow and like us:
0 Comments

mongko

Reply your comment

Your email address will not be published. Required fields are marked*

RSS
Follow by Email
YouTube
LinkedIn
Share
Instagram